วันพุธที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การดื่มน้ำที่ถูกต้อง

1. น้ำดื่ม เป็นน้ำเปล่าธรรมดา ไม่เป็นน้ำที่ร้อนมากหรือที่เย็นจัด ถ้าเป็นน้ำอุ่น ๆ เล็กน้อย ดื่มในตอนเช้าจะทำให้การขับถ่ายดีขึ้น ลำไส้สะอาด
2. ระยะเวลาที่ดื่มน้ำ ในวันหนึ่ง ( อาจเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยตามความสะดวก )
ตื่นนอนตอนเช้า ดื่มน้ำ 1 แก้ว ( แก้วบรรจุ 400 :ซี.ซี.)
ตอนสาย ดื่มน้ำ 2 แก้ว (เวลาประมาณ 9.00 – 10.00 น.)
ตอนบ่าย ดื่มน้ำ 3 แก้ว (เวลาประมาณ13.00 – 14.00 น.)
ตอนเย็น ดื่มน้ำ 3 แก้ว (เวลาประมาณ 19.00 – 20.00 น.)
ก่อนเข้านอน ดื่มน้ำ 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้แลกระเพาะอาหาร ถ้าเป็นน้ำอุ่นจะช่วยให้หลับสบายดีขึ้น รวมแล้วให้สามารถดื่มเปล่าได้วันละ 10 แก้ว นอกเหนือจากนั้น ท่านสามารถดื่มน้ำผลไม้ น้ำนม ฯลฯ ได้อีกไม่จำกัด
3. ข้อควรจำ
3.1 ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำครั้งละ 2 – 3 แก้วติดต่อกันทันที ดื่มตามปรกติสบาย ๆ ผู้ที่ดื่มครั้งแรก ๆ จะรู้สึกคลื่นไส้นิดหน่อย เป็นอาการปรกติธรรมดา ทั้งนี้เพราะผนังลำไส้และกระเพาะอาหารขยายตัวขึ้น ต่อไปจะไม่มีอาการอีก สามารถดื่มได้ง่ายและเกิดความชื่นชอบ รู้สึกสดชื่นสบายที่ได้ดื่มน้ำมาก ๆ
3.2 เมื่อดื่มน้ำไปสักครู่หนึ่งจะปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะครั้งแรก ๆ จะมีสีเหลืองขุ่น กลิ่นฉุน เนื่องจากน้ำที่ดื่มไปชะล้างไตให้สะอาด ไตเป็นเสมือนเครื่องกรองน้ำของร่างกาย
3.3 อย่าดื่มน้ำมากก่อนที่จะรับประทานอาหาร ( ควรงดดื่มน้ำมากสักครึ่งชั่วโมงก่อนรับประทานอาหาร ) และหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ ก็ไม่ควรดื่มน้ำมาก ๆ ทันที
3.4 การรับประทานอาหารพร้อมกับดื่มน้ำตลอดเวลาเป็นนิสัยที่ควรหลีกเลี่ยง หากรู้สึกฝืดคอในระหว่างรับประทานอาหาร ให้ซดน้ำซุบแกงจืดแทน การดื่มน้ำมากในระหว่างรับประทานอาหารทั้งก่อนหน้าและหลังอาหารทันทีจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง การย่อยเป็นไปได้ไม่ดี
3.5 ไม่ควรรับประทานอาหารในแต่ละมือจนอิ่มแน่นท้องเกินไป ควรให้อิ่มพอดีแล้วรับประทานผลไม้สดจะทำให้สะอาดคอ แล้วจิบน้ำตามนิดหน่อยท่านจะรู้สึกสบายท้อง หลังจากนั้นสักครึ่งชั่วโมงจึงดื่มน้ำตามปรกติ หากท่านได้ดื่มน้ำถูกหลักเช่นนี้เป็นประจำ จะเป็นผู้ที่มีสุขภาพอนามัยดี ร่างกายสดชื่น