วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556

เรื่องราวของยาสีฟัน “ดาร์ลี” และ “ดาร์กี”


คนรุ่นใหม่อาจจำได้ไม่แน่ชัด แต่คนรุ่นเก่า (แต่ไม่แก่) คงคุ้นหูกับชื่อยาสีฟัน “ดาร์กี” (Darkie) ที่มีรูปโลโก้เป็นชายหน้าดำกำลังยิ้มเป็นอย่างดี สินค้าตัวนี้มีชื่อเป็นภาษาจีน แปลว่า “คนดำ”

“ดาร์กี” ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “ดาร์ลี” (Darlie) หลังจากที่บริษัทฮอว์ลีย์แอนด์ฮาเซิลผู้ผลิตเดิมบนเกาะฮ่องกง ถูกบริษัทสินค้าอุปโภคยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ จากสหรัฐอเมริกา ซื้อกิจการไปเมื่อปี 1985

สาเหตุที่ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนชื่อนั้น มาจากการที่คอลเกต-ปาล์มโอลีฟถูกกดดันอย่างหนัก จากคนผิวสีและนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่เห็นว่าการตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ที่กล่าวถึงเชื้อชาติของคนนั้นเป็นการเหยียดผิว ว่ากันว่าผู้ที่จุดเพลิงให้กระแสความไม่พอใจกระพือขึ้นจนขยายวงกว้าง ก็คือบริษัทคู่แข่งยักษ์ใหญ่ซึ่งนำยาสีฟันสูตรใหม่ออกวางตลาดในเวลาเดียวกันกับดาร์กีนั่นเอง

เนื่องจากภาพลักษณ์มีผลกระทบอย่างมากต่อรายได้ คอลเกต-ปาล์มโอลีฟจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อยาสีฟันเป็นดาร์ลี และปรับปรุงภาพโลโก้จากเดิมที่เป็นภาพชายผิวดำหน้าตาคล้าย อัล โจลสัน นักร้องนักแสดงชาวอเมริกันชื่อดังแห่งศตวรรษที่ 20 มาเป็นภาพผู้ชายที่ระบุไม่ได้แน่ชัดว่าเป็นคนเชื้อชาติใด

บรรดาผู้วิพากษ์วิจารณ์ชาวตะวันตกรู้สึกพอใจกับการเปลี่ยนชื่อ และอ้างว่ายาสีฟันขายดีขึ้นหลังจากนั้น แต่ที่หลายๆ คนไม่รู้ก็คือ ชื่อภาษาจีนของยาสีฟันยี่ห้อนี้แปลว่า “ยาสีฟันคนดำ” ยังคงไม่เปลี่ยน โดยมีการออกโฆษณารณรงค์ว่า “ยาสีฟันคนดำยังคงเป็นยาสีฟันคนดำอยู่” เนื่องจากในภาษาจีนนั่นไม่ได้มีความหมายในทางดูถูกดูหมิ่นคนเชื้อสายแอฟริกันแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ปัจจุบันยาสีฟันยี่ห้อนี้ยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหลายประเทศในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะที่ฮ่องกงและไต้หวัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น